วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

แขวนจอ TV LED (DIY : LED TV wall mount)

  โทรทัศน์ (Television) ในปัจจุบันคงจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกบ้าน ไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวยขนาดไหนก็ดูโทรทัศน์กันทั้งนั้น ซึ่งราคาก็ถูกแพงแล้วแต่ประเภทและขนาด
   ในอดีตโทรทัศน์รุ่นก่อนๆ หลอดภาพเป็นแบบ CRT คือเป็นตู้หนาๆ มีรังสีออกมาเยอะ ดูใกล้มากเดี๋ยวตาเสีย แถมน้ำหนักมากด้วย พอพัฒนาขึ้นมาก็เปลี่ยนเป็น LCD ซึ่งทำให้จอบางลงมามาก และน้ำหนักก็ลดลงมากด้วยเช่นกัน จนมาถึงปัจจุบันก็เป็นแบบ LED TV ก็มีทั้งแบบ 2D และ 3D ซึ่งราคาก็แพงขึ้นไป และพัฒนาไปอีกมีแบบจอโค้งเหมือนจอในโรงหนังเลย ความละเอียดของจอภาพก็สูงขึ้น จาก HD. Full HD. จนปัจจุบัน ความละเอียดถึง 4K
   พอจอ TV บางลงมากขนาดนี้ แถม Design ของแต่ละแบรนด์ก็ทำให้สวยดูดีมีราคาสามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์แต่บ้านไปในตัวได้ด้วย เคาน์เตอร์สำหรับวาง TV แบบเดิมๆก็เสื่อมความนิยมลงไปบ้าง เพราะ ด้วยน้ำหนักเบาและบางจึงสามารถแขวนติดผนังได้ ก็ดูดีไปอีกแบบ
  ในบทความนี้ผมจะกล่าวถึงวิธีการติดตั้งขาสำหรับแขวน LED TV  ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร เพราะในกล่องขาแขวนจะมีคู่มือวิธีการติดตั้งให้อยู่ แค่คุณสามาถใช้สว่านเจาะผนังได้ ขันสกรูเป็นก็ทำเองได้แล้วครับ
  เริ่มจากเครื่องมือที่ต้องใช้ก่อนครับ
    1. สว่านไฟฟ้า ถ้าเจาะกระแทกได้ยิ่งดีครับ
    2. ดอกสว่านเจาะคอนกรีต ขนาดต่างๆ แล้วแต่ขนาดของพุกและสกรูยึดผนังครับ
    3. ค้อน
    4. ไขควงแฉก/แบน
    5. ระดับน้ำ
    6. คนช่วยยกจอตอนเอาไปแขวนซักคน
  อุปกรณ์
    1. พุกและสกรู อาจจะมีในกล่องของขายึดแล้วครับ
    2. ชุดขาแขวน แล้วแต่แบบที่ซื้อมาเป็นแบบไหน
    3. จอ LED TV
ขาแขวน LED TV : การเลือกซื้อให้จำขนาดจอไปด้วยครับ เพราะขาแขวนจะทำให้สามารถใช้ได้เฉพาะขนาดที่ระบุครับ เช่น ถ้าใช้จอขนาด 40" ก็ให้ซื้อขาที่ใช้ได้กับจอขนาดนั้น โดยเขาจะระบุเป็นช่วงขนาด เช่น 37"ถึง 42" เป็นต้น
    ผลเลือกซื้อขาที่ปรับมุมก้มเงยได้ก็พอครับ ราคาไม่แพง ดูแข็งแรงดี

เริ่มต้นการทำงาน
  1. วัดขนาด กำหนดตำแหน่งที่จะเจาะผนังยึดสกรู ใช้ระดับน้ำช่วยในการจัดระดับซ้ายขวาจะได้ไม่เอียงครับ
  2. เจาะผนัง ฝังพุก โดยดอกสว่านที่ใช้ให้ดูตามขนาดพุก เช่นถ้าเขาให้พุกเบอร์ 10 มา ดอกสว่านก็ต้องใช้เบอร์ 10 เจาะครับ  แต่ผมใช้ ดอกสว่านเบอร์เล็กเจาะนำไปก่อนครับ เวลาเจาะขยายขนาดจะง่ายกว่าเจาะเบอร์ 10 ไปเลยทีเดียว เจาะทั้งหมด 4 รูก็พอครับ พอเจาะเสร็จก็ใช้ค้อนตอกพุกเข้าไปจนสุดครับ


  3. ยึดตัวแป้นเข้ากับผนัง ขันสกรูให้แน่นทุกตัว  ใช้ระดับน้ำเช็คดูอีกทีว่าใช้ได้ไหม

  4. ยึดขาแขวนติดกับด้านหลังของจอ LED TV ด้วยสกรูที่ให้มา

  5. ยกจอขึ้นแขวน ให้ดูให้ดีว่าขาเกาะอยู่ในรางทั้ง 2 ข้าง เรียบร้อยก็ยึดสกรูด้านล่างป้องกันจอตก

  6. ปรับมุมก้มเงยตามความต้องการ

เท่านี้คุณก็จะได้ LED TV แขวนติดผนังเรียบร้อยแล้วครับ

วันที่ 1/10/57 หลังจากที่ติดตั้งขาแขวนแบบยึดติดผนัง 1 ตัวแล้ว 1 ปีกว่าๆ ไม่พบปัญหาใดๆ โทรทัศน์ยังเกาะติดผนังแน่นไม่ไปไหน จึงตัดสินใจแขวนเพิ่มอีก 1 เครื่อง อันใหม่เป็นแบบหนุนจอซ้ายขวาและก้มเงยได้ แถมราคาถูกกว่าอันเก่าอีกด้วย
    การติดตั้งและเครื่องมือก็ตามเดิมครับ อาจแตกต่างในรายละเอียดเล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ
ตัวนี้ใช้เวลาทำงานประมาณ 1 ชั่วโมง  น่าจะเร็วกว่าครั้งแรก

    ใครสนใจก็ลองซื้อมาติดเองดูครับ ไม่ยากเลย ลองดูนะครับ

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ปรับระดับพื้นห้องน้ำและแก้ปัญหาน้ำขัง (DIY : Bathroom slope)


     พื้นห้องน้ำ มีความแตกต่างจากพื้นห้องทั่วไป เนื่องจากต้องรองรับการใช้งานที่เปียกชื้นตลอดเวลา และต้องสามารถระบายน้ำออกได้หมดโดยที่ไม่มีน้ำขัง
      ดั้งนั้นในการทำพื้นห้องน้ำจึงต้องคำนึงถึงระดับและทิศทางการไหลของน้ำออกไปยังท่อระบายน้ำด้วย หากการก่อสร้างไม่ดี ระดับไม่ถูกต้อง  ก็อาจจะทำให้มีน้ำขังในห้องน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญที่จะต้องมาคอยกวาดน้ำออกบ่อยๆ มิหนำซ้ำยังมีเศษผุ่น ดิน สิ่งสกปรกสะสมอยู่บนพื้นด้วย

      ห้องน้ำที่บ้านผม จริงๆแล้วออกแบบและทำ slope ได้ดีแล้ว เพียงแต่ตอนซื้อบ้านมาดันมีของแถมเป็นตู้อาบน้ำให้ด้วย 2 ตู้(ห้องละตู้) แล้วตู้อาบน้ำก็ต้องมีรูระบายน้ำออกซึ่งไปวางทับบนรูระบายน้ำของห้องน้ำ แล้วเขาทำรูระบายน้ำใหม่ อยู่กลางห้อง ซึ่งไม่ได้เป็นจุดต่ำสุดของห้องน้ำ ทำให้มีน้ำขังที่มุมห้อง ซึ่งเขาไม่ได้แก้ slope ให้ คราวนี้ก็เป็นปัญหาของคนอยู่สิครับ ต้องคอยกวาดน้ำทิ้งทุกครั้ง น่าเบื่อ เป็นภาระงานที่ไม่ควรจะมี คิดได้ดังนี้แล้ว ก็เลยตกลงใจว่าจะลองเทพื้นปรับระดับให้และแก้ slope ดูเองสักที ไม่เคยทำมาก่อนอีกเหมือนกันครับ  เดี๋ยวมาดูกันว่าผลงานจะเป็นอย่างไร ได้ผลหรือไม่
      เริ่มจากอุปกรณ์และเครื่องมือที่ต้องใช้ ก็ได้แก่
    เครื่องมือ
     - เกรียง
     - ถังผสมปูน
     - ระดับน้ำ
     - ค้อน
     - ค้อนยาง
     - เกรียงหวี
     - เครื่องตัดกระเบื้อง
     - คีมตัดกระเบื้อง
     - เอ็นหรือเชือกสำหรับขึงจัดระดับ
   อุปกรณ์/วัสดุ
     - ปูน สำหรับผสมเทพื้น
     - ทรายหยาบ
     - หิน
     - ปูนกาวปูกระเบื้อง
     - กระเบื้องปูพื้น
     - คิ้วปูกระเบื้อง
     - ปูนยาแนวกระเบื้อง
   ก่อนเริ่มทำงานเรามาออกแบบคร่าวๆ ก่อนว่าจะเทพื้นกว้างยาวขนาดไหน สูงขึ้นเท่าไร


รื้อตู้อาบน้ำออกก่อน  บริเวณด้านขวามือนั่นแหละครับที่น้ำขัง
พื้นระดับเดิม น้ำจะไหลไปลงท่อที่มุมห้อง แต่พอวางตู้แล้วน้ำไหลไปไม่ได้ขังอยู่ตรงมุมขวา
เทพื้นปรับระดับใหม่ ให้น้ำไหลกลับมาลงรูระบายตรงกลางแทน


ชั้นตอนที่ 1 กั้นไม้แบบสำหรับเทปูน
  ใช้ไม้หน้าสามนี่แหละครับ ตัดตามความกว้างของห้อง ตอกตะปูติดกับผนังทั้งสองด้าน ไม่ให้มันเลื่อนออกเวลาเทปูน

ขั้นตอนที่ 2 จับระดับความลาดเอียง
  ขั้นแรกให้กำหนดก่อนว่าต้องการให้พื้นสูงขึ้นเท่าไร ก็เอาซัก 5 cm ก็แล้วกัน โดยวัดจากมุมล่างด้านขวามือ ตรงท่อระบายน้ำกลาง  แล้วที่เหลือ ก็ใช้ระดับน้ำวัด ใช้เอ็นขึงไว้ สรุปแล้วด้านในสูงจากเดิมประมาณ 10 cm. ได้
ขั้นตอนที่ 3 เทพื้น
  เริ่มจากเอาปูนเทตามแนวเส้นเอ็น เพื่อจับระดับก่อน อย่าเพิ่งเททีเดียวหมดนะครับ เดี๋ยวไม่ได้ระดับแล้วจะแก้ไขยาก ทิ้งไว้ให้ปูนแห้ง ตรงรูระบายน้ำผมก็ใช้ ขวดน้ำอุดซะไม่ให้ปูนไหลลงท่อเวลาเทปูนน่ะครับ ใช้ตะปูคอนกรีต ตอกลงบนพื้น เป็นระยะตามมุมกระเบื้องเพื่อให้ปูนยึดเกาะกับพื้นเดิมได้ดีขึ้น













 

 
  ผสมปูนเทพื้น โดยใช้สัดส่วน ปูน 1 : ทราย 2 : หิน 3 แต่พอดีหินมีน้อยก็เลยอาจจะไม่ได้ตามส่วน แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นอะไรมากครับ
ปูนที่เลอะผนัง  ไม่ต้องกังวลครับ พอปูนแห้งก็ใช้เกรียงขูดออกได้ไม่ยาก เพราะกระเบื้องผนังจะเป็นกระเบื้องเคลือบ ผิวจะเรียบ และลื่น  แต่ถ้าเป็นกระเบื้องพื้นที่พื้นผิวหยาบหรือด้านจะต้องรับเช็ดออกก่อนปูนจะแห้งครับ

ขั้นตอนที่ 4 ปูกระเบื้อง
  เมื่อเทพื้นปรับระดับเรียบร้อยแล้วก็ทิ้งไห้ปูนแห้งซักวัน แต่ไม่ค่อยว่างมาทำเลยทิ้งไว้เป็นอาทิตย์ค่อยมาปูกระเบื้อง ก็ไปเดินหาซื้อกระเบื้องปูพื้นสีสันตามชอบอีกแหละครับ แต่ต้องดูให้ดีว่าเป็นกระเบื้องปูพื้นนะครับเพราะความแข็งจะต่างจากกระเบื้องผนัง เนื่องจากต้องรับแรงกดและรับน้ำหนักมากกว่า
  เริ่มปูกระเบื้องกันเลยครับ โดยขนาดกระเบื้องที่ซื้อมาขนาดใหญ่กว่าอันเดิม พื้นเดิม 8 นิ้ว อันใหม่ 12 นิ้ว ต้องคิดก่อนว่าปูแบบไหนจะสวย วิธีที่ผมทำผิดหรือถูกไม่แน่ใจ แต่ผมยึดแนวกลางห้องเป็นหลัก โดยวัดขนาดพื้นที่จะปู กว้างยาวเท่าไร หารสอง เป็นแนวกึ่งกลางกระเบื้องที่จะปู
  ใช้ตะปูกับเอ็นขึงแนวปูกระเบื้อง เริ่มปูจากตรงกลางก่อนครับ ผสมปูนกาวกับน้ำคนให้เข้ากันทิ้งไว้ซักครู่ อย่าลืมราดน้ำบนพื้นให้เปียกทั่วก่อนครับ แต่อย่าให้มีน้ำขัง เทปูนลงแล้วใช้เกรียงหวีปาดออก วางกระเบื้องตามแนวเส้นเอ็น ใช้ค้อนยางเคาะเบาๆเพื่อให้ยึดกันแน่นและใช้ระดับน้ำปรับระดับความลาดเอียงอีกที ปูต่อไปเรื่อยๆจนเสร็จ อาจจะใช้ spacer คั่นระหว่างกระเบื้องช่องไฟจะได้เท่ากัน
  ส่วนบริเวณขอบที่กระเบื้องไม่เต็มแผ่นก็ใช้เครื่องตัดกระเบื้องตัดออกตามขนาด พอเสร็จแล้วก็ทิ้งให้แห้งสัก 1 วัน ค่อยกลับมายาแนวกันต่อครับ
   พอเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เป็นไปตามรูปครับ
 
การเทพื้นปรับระดับเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก จะปูกระเบื้องได้สวยหรือไม่ก็ขึ้นกับขั้นตอนนี้ครับ